ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งาน
กรุณาอ่านและทำความเข้าใจรายละเอียดในข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานนี้โดยละเอียดก่อนกดปุ่ม “ตกลง” ยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานนี้
1. การใช้งานเว็บไซต์
ท่านตกลงและยอมรับข้อกำหนดดังต่อไปนี้
(i) ปฏิบัติตามกฎหมาย หลักเกณฑ์ ระเบียบ ที่เกี่ยวข้อง ที่มีผลใช้บังคับในปัจจุบันและที่จะมีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมในอนาคต
(ii) การเข้าถึงและ/หรือเข้าใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ เป็นการยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ปรากฏ ณ ขณะที่เข้าถึงหรือใช้งาน และ ที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือทำให้เป็นปัจจุบันในแต่ละช่วงเวลาในอนาคตว่ามีผลผูกพันตามกฎหมาย
(iii) มีหน้าที่จัดหาอุปกรณ์เพื่อการใช้งานที่ปลอดภัย เช่น ไม่ใช้งานเครื่องมือหรืออุปกรณ์ใดๆ ที่มีการเจลเบรคหรือรูท (Jailbreak / Root) หรือ อื่นใดในทำนองเดียวกัน
(iv) มีหน้าที่จัดหาบริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์ใช้งาน ซอฟต์แวร์ แพลทฟอร์ม (Platform) และ/หรือ บริการอื่นใดจากผู้ให้บริการเหล่านั้น เพื่อทำการติดตั้ง เข้าถึงและใช้งานเว็บไซต์ด้วยค่าใช้จ่ายของตนเอง และ ปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อตกลงต่างๆ ตามที่ผู้ให้บริการเหล่านั้นกำหนด ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทฯที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพและความสะดวกในการใช้เว็บไซต์นี้
(v) ข้อมูลที่ท่านได้ให้กับบริษัทฯ ผ่านการใช้เว็บไซต์นี้ มีความครบถ้วน ถูกต้อง และ เป็นจริง
(vi) ปรับปรุงบัญชีผู้ใช้งานหรือชื่อผู้ใช้งาน (หากมี) ให้ถูกต้องและตรงต่อความเป็นจริงในปัจจุบันเสมอ
(vii) เก็บรักษารหัสผ่านเข้าใช้งาน (หากมี) ที่ตั้งขึ้นจะไม่เปิดเผยให้บุคคลอื่นทราบ ในกรณีที่ไม่ปฏิบัติตาม ผู้ใช้งานตกลงรับผิดชอบการกระทำที่เกิดขึ้นกับบัญชีการใช้งานจากการกระทำของบุคคลนั้น
2. การลงทะเบียน
ในการใช้งานบางครั้งท่านอาจจะต้องสร้างบัญชีการใช้งานหรือชื่อผู้ใช้งาน ซึ่งท่านตกลงที่จะ
(i) ลงทะเบียนการใช้งานหรือชื่อผู้ใช้งาน และ ตั้งรหัสผ่าน โดยให้รายละเอียดเกี่ยวข้องกับท่าน อย่างถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นจริง ซึ่งในการลงทะเบียน บริษัทฯมีความจำเป็นให้ท่านแจ้งและระบุรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อใช้ประกอบการระบุตัวตน ซึ่งจะป้องกันการเข้าถึงข้อมูลของท่านโดยบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต และ เพื่อให้การบริการมีประสิทธิภาพและเหมาะสม
(ii) ตั้งรหัสผ่านที่ไม่ใช้รหัสที่ง่ายต่อการคาดเดา เช่น วันเดือนปีเกิด หรือเบอร์โทรศัพท์ หรือ ชื่อสกุล เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทฯแนะนำการตั้งรหัสผ่านโดยใช้การผสมคำระหว่างอักษรตัวใหญ่ ตัวเล็ก ตัวเลขและเครื่องหมายพิเศษเช่น $ % # @ เป็นต้น
(iii) เปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำสม่ำเสมอ
(iv) รักษารหัสผ่านที่ท่านตั้งขึ้น และ ไม่เปิดเผยให้บุคคลอื่นทราบ หากท่านอนุญาตให้บุคคลอื่นทราบรหัสผ่านเข้าใช้งาน ท่านตกลงที่จะรับผิดชอบการกระทำที่เกิดขึ้นกับบัญชีการใช้งานหรือชื่อผู้ใช้งานของท่านที่มาจากการกระทำของบุคคลนั้น
(v) ปรับปรุงบัญชีผู้ใช้งานหรือชื่อผู้ใช้งานให้ถูกต้องและตรงต่อความเป็นจริงในปัจจุบันเสมอ รับผิดชอบการใช้บัญชีผู้ใช้งานหรือชื่อผู้ใช้งาน และ แจ้งบริษัทฯทันทีเมื่อพบว่ามีบุคคลอื่นใช้บัญชีผู้ใช้งานหรือชื่อผู้ใช้งานของท่านโดยไม่ได้รับอนุญาต
(vi) ให้สิทธิบริษัทฯในการพิจารณาระงับหรือยกเลิกการใช้บัญชีของท่าน หากเกิดเหตุการณ์ หรือ มีข้ออันควรสงสัยได้ว่า มีผู้ใช้บัญชีผู้ใช้งานหรือชื่อผู้ใช้งานของท่านโดยไม่ได้รับอนุญาต
(vii) ท่านรับทราบว่าท่านมีสิทธิที่จะขอระงับหรือยกเลิกชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านของผู้ใช้งานได้ โดยแจ้งความประสงค์มายังบริษัทฯ อนึ่ง บริษัทฯสงวนสิทธิที่จะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นก่อนกระบวนการระงับหรือยกเลิกดังกล่าวมีผลสมบูรณ์
3. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
(i) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ใช้งานได้ไว้ให้กับบริษัทฯผ่านการใช้งานเว็บไซต์นี้ รวมถึง มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลนั้น ซึ่งท่านสามารถคลิกอ่านรายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของบริษัทฯ
4. กรรมสิทธิ์และสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา
เนื้อหา ข้อความ กราฟฟิก โลโก้ เครื่องหมายการค้า วิดีโอ ปุ่มไอคอน รูปภาพ การออกแบบหน้าจอหรือส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ และ ข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใด โปรแกรมซอฟต์แวร์ใด ๆ ที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้ รวมถึงข้อมูลทั้งหลายที่ผู้ใช้งานได้ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์นี้ (ซึ่งต่อไปนี้จะรวมเรียกว่า “เนื้อหา”) เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทฯ เว้นแต่จะได้ระบุไว้ต่างออกไป ห้ามทำซ้ำ สำเนา เผยแพร่ หรือ ลอกเลียนแบบ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดแจ้งจากบริษัทฯ หรือ ภายใต้กรอบความยินยอมที่ระบุไว้เฉพาะ (หากมี)
ท่านยอมรับว่าเนื้อหาบนเว็บไซต์จะได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ และเป็นไปได้ที่จะมีสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาอื่น ๆ เว้นแต่เมื่อกฎหมายอนุญาตหรือเมื่อได้รับอนุญาตจากบริษัทฯ อย่างชัดแจ้ง ท่านจะต้องไม่กระทำการ หรืออนุญาตให้บุคคลอื่นใดกระทำการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
(ii) ใช้เนื้อหาใด ๆ บนเว็บไซต์อื่นใดหรือในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ ก็ตาม
(iii) ทำวิศวกรรมย้อนกลับต่อเนื้อหาใด ๆ ซึ่งมีซอฟต์แวร์ที่สามารถดาวน์โหลดได้เป็นส่วนประกอบ และ/หรือ
(iv) ละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลหรือหน่วยงานใดในลักษณะอื่น ๆ ในการใช้และ/หรือเข้าถึงเว็บไซต์หรือเนื้อหาใด ๆ
5. การสงวนสิทธิและจำกัดความรับผิด
(i) บริษัทฯสงวนสิทธิ์ที่จะระงับการเข้าถึงหรือยกเลิกการใช้งาน ในกรณีผู้ใช้งานละเมิดข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งาน
(ii) บริษัทฯสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาระงับหรือยกเลิกการใช้บัญชี หากเกิดเหตุการณ์ หรือ มีข้ออันควรสงสัยได้ว่า มีผู้ใช้บัญชีผู้ใช้งานหรือชื่อผู้ใช้งานของท่านโดยไม่ได้รับอนุญาต
(iii) เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่นบริษัทฯสงวนสิทธิ์ที่จะปรับปรุงข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานได้ตลอดเวลา โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้า บริษัทฯอาจจะแจ้งการปรับปรุงในหน้าเว็บไซต์ของบริษัทฯการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงจะมีผลบังคับตามวันที่ที่ระบุในประกาศหรือเอกสารปรับปรุง หรือ อย่างอื่นใดตามที่จะได้ระบุ “วันที่มีผลใช้บังคับ” หากผู้ใช้งานได้เข้าใช้งานเว็บไซต์นับจากวันที่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง จะถือว่าผู้ใช้งานยอมรับเงื่อนไขการใช้งานฉบับเปลี่ยนแปลงนั้น
(iv) บริษัทฯสงวนสิทธิ์ปรับปรุงหรือยกเลิกการใช้งานเว็บไซต์ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้า
(v) บริษัทฯไม่รับรองและขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบใดๆสำหรับความสูญหาย ความเสียหาย ค่าสินไหมทดแทน ค่าใช้จ่าย หรือค่าเสียหายใด ที่เกิดจากหรือเป็นผลสืบเนื่องมาจาก
ก. ผู้ใช้งานไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ หรือ การขัดข้องใดๆ หรือ การให้บริการที่ล่าช้า อันเนื่องมาจากเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุม รวมถึงแต่ไม่จำกัดอยู่เพียง เหตุสุดวิสัย รวมถึง การใช้บริการที่ผู้ใช้งานได้รับจากบุคคลภายนอกอื่น
ข. โปรแกรม ไฟล์ หรือ ซอฟต์แวร์อันตราย (Malicious Software) ) ที่อาจสร้างความเสียหายต่อระบบหรือข้อมูลในระบบของผู้ใช้งาน
ค. ข้อมูลที่ปรากฎในเว็บไซต์อาจจะไม่เป็นปัจจุบัน หรือ มีความผิดพลาดหรือขาดตกบกพร่องไป แม้ว่าบริษัทฯจะได้พยายามอย่างดีที่สุดในการจัดทำข้อมูลให้มีคุณภาพตามความเหมาะสม
(vi) บริษัทฯไม่สามารถควบคุมเว็บไซต์ของบุคคลภายนอกใด ๆ ซึ่งมีการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ของบริษัทฯ และไม่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อเนื้อหาหรือความถูกต้องของเว็บเพจที่อยู่นอกเว็บไซต์หรือเว็บไซต์ของบุคคลภายนอกอื่นใดที่มีการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ของบริษัทฯ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อผ่านทางโฆษณา)
(vii) บริษัทฯไม่ให้การรับรอง คำมั่น การรับประกัน คำสัญญา หรือการประกันต่อคุณภาพ ความคมชัด ความครบถ้วน ความถูกต้อง ความมีประโยชน์ ความต่อเนื่อง ความลื่นไหล หรือความตรงต่อเวลาของเนื้อหาใดๆ
6. อื่นๆ
(i) ข้อตกลงนี้อยู่ภายใต้ภายใต้การบังคับและตีความตามกฎหมายไทย และศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทใดที่อาจเกิดขึ้น
(ii) หากมีความไม่สอดคล้องใดๆ ระหว่างข้อกำหนดในการใช้งานฉบับนี้ในฉบับภาษาอังกฤษและในฉบับภาษาอื่นใด (ถ้ามี) ฉบับภาษาไทยจะมีผลบังคับใช้
(iii) บริษัทฯสามารถโอนสิทธิและหน้าที่ของบริษัทฯตามข้อกำหนดในการใช้งานฉบับนี้ให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานใดๆ โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน นอกจากนี้ บริษัทฯอาจใช้ตัวแทนหรือผู้รับจ้างช่วงในการปฏิบัติหน้าที่ความรับผิดชอบของบริษัทฯ
การกำหนดการประมวลผลคุกกี้ผ่านการตั้งค่าเว็บเบราว์เซอร์
ท่านสามารถกำหนดการประมวลผลคุกกี้ได้ที่ ตั้งค่าเว็บเบราว์เซอร์ เพื่ออนุญาตใช้งานคุกกี้ในแต่ละประเภท ทั้งนี้ หากท่านไม่อนุญาตให้ประมวลผลคุกกี้บนเว็บไซต์ของเรา โปรดทราบว่าท่านอาจจะไม่สามารถเข้าถึงฟังก์ชันทั้งหมดที่เว็บไซต์ของเรานำเสนอได้
การส่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เรารวบรวมจากท่านผ่านคุกกี้ต่อไปยังผู้ให้บริการบุคคลที่สาม
ข้อมูลส่วนบุคคล (ถ้ามี) ที่เรารวบรวมจากท่านผ่านคุกกี้อาจถูกส่งต่อไปยังผู้ให้บริการบุคคลที่สามของเราไม่ว่าจะอยู่ในประเทศไทยหรือที่อื่นซึ่งอาจมีหรือไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ เพื่อวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง (i) เพื่อการจัดการและ / หรือการดูแลเว็บไซต์ของเรา หรือ (ii) เพื่อวัตถุประสงค์ในการโฮสต์ข้อมูล / การจัดเก็บ / สำรองข้อมูล
การประมวลผลคุกกี้เพื่อการโมษณา
เราไม่ประมวลผล และจะไม่ประมวลผลคุกกี้ของท่านเพื่อการโมษณา การโฆษณาแบบระบุเป้าหมาย หรือการทำการตลาดอื่นๆ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้ดำเนินการได้
รายละเอียดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับประมวลข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิของท่านได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
นโยบายความเป็นส่วนตัว
เกี่ยวกับเรา
SCGS เป็นผู้ให้บริการวางโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อรองรับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่ทางบริษัทได้รับการยอมรับจากผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (ISP) เรามุ่งเน้นจัดการปัญหาโครงข่ายสื่อสารแบบเก่าในปัจจุบันให้ดีขึ้น เพื่อรองรับเทคโนโลยีและสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูง ทั้งในปัจจุบันและอนาคตให้มีความทันสมัย
ข้อดีของโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติก
1. โครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกรองรับความเร็วอินเทอร์เน็ตได้แบบไร้ขีดจำกัด
2. สัญญาณอินเทอร์เน็ตมีความเสถียร ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างลื่นไหล
3. อินเทอร์เน็ตเร็วขึ้น ดาวน์โหลด อัปโหลดแบบไม่มีสะดุด
4. หมดปัญหา ความไม่เป็นระเบียบของสายสัญญาณอินเทอร์เน็ต
5. ลดความเสี่ยงจากความร้อนที่เกิดขึ้นของสายทองแดง ที่อาจเสี่ยงให้เกิดไฟไหม้ได้
ภารกิจของ SCGS
1. เร่งพัฒนาโครงข่ายสำหรับผู้ใช้บริการปลายทาง ให้เป็นโครงข่ายใยแก้วนำแสงที่ทันสมัย
2. จัดเตรียมโครงข่ายปลายทางที่มีคุณภาพสูง สำหรับผู้ให้บริการทุกรายด้วยความเท่าเทียมและเปิดเผย
3. สนับสนุนผู้ให้บริการเสริมทางดิจิทัลที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ให้เข้าถึงผู้ใช้บริการปลายทางอย่างมีประสิทธิผล
4. รักษาอัตราการเติบโตทางธุรกิจให้มีความยั่งยืน เพื่อผลประโยชน์ของคู่ค้า และผู้มีส่วนได้เสียตลอดจนสังคมด้วยธรรมาภิบาลที่ดี
วัตถุประสงค์และลักษณะของธุรกิจ
SCGS เริ่มต้นธุรกิจจากความต้องการในการแก้ไขปัญหาความรกรุงรังของสายสื่อสาร สาเหตุเกิดจากความต้องการในการขอใช้บริการการสื่อสารของคนในชุมชนมีมากขึ้น จึงก่อให้เกิดการสะสมของสายสื่อสารในจำนวนมากบนเสาไฟฟ้าจนก่อให้เกิดความรกรุงรังและเป็นมลพิษทางสายตาต่อผู้พบเห็นเสมอมา ที่จริงแล้วสายสื่อสารเหล่านั้น บางส่วนไม่ได้ถูกใช้งานจากการยกเลิกของผู้ใช้บริการ แต่ผู้ให้บริการไม่ได้มีการรื้อถอนออกไป จากปัญหาดังกล่าวจึงเป็นที่มาของแรงบันดาลใจ ที่ทำให้บริษัท SCGS ดำเนินการประกอบธุรกิจภายใต้แนวคิดการแบ่งปัน
SCGS ได้พัฒนารูปแบบ (Platform) สำหรับการให้บริการ ด้วยการพัฒนาโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกที่รองรับการให้บริการจากผู้ให้บริการหลายรายได้ในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการวางโครงข่ายซ้ำซ้อน ลดปริมาณของสายสื่อสารให้เหลือเพียงแค่โครงข่ายเดียว (Single Network) ที่จะช่วยให้ผู้ให้บริการทุกรายลดขั้นตอนและระยะเวลาในการให้บริการ โดยไม่มีการกีดกันใดๆซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้บริโภค ที่จะสามารถเลือกใช้บริการจากผู้ให้บริการที่ตนต้องการได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการใช้โครงข่ายสำหรับผู้บริโภค
SCGS ไม่ใช่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกแบบรวมศูนย์ (DSDP) ซึ่งรองรับการให้บริการอินเทอร์เน็ตหรือบริการดิจิตอลอื่นๆได้ตามต้องการ
SCGS คิดค้นนวัตกรรมภายใต้คุณลักษณะ Digital Service Distribution Platform (DSDP) ซึ่งจะช่วยให้ชุมชนสามารถรับบริการจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตพร้อมกันได้หลายราย ไม่ผูกขาดรายใดรายหนึ่ง ทำให้ชุมชนมีอิสระในการเลือกใช้บริการตามที่ตนต้องการ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาความรกรุงรังของชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิสัยทัศน์ขององค์กร
Digital Service Distribution Platform (DSDP) อยู่ภายใต้หลักการของ sharing economy ที่จะช่วยส่งเสริมการพัฒนารูปแบบการบริการตามระเบียบและความพึงพอใจต่อสังคม โดยมุ่งเน้นสิทธิและความเท่าเทียมของผู้บริโภคและผู้ให้บริการ SCGS มุ่งเน้นสู่การเป็นผู้นำในการผลักดันรูปแบบการให้บริการโครงข่ายด้านการสื่อสารแบบแบ่งปัน (sharing telecom network) เพื่อลดปัญหาจากการวางโครงข่ายซ้ำซ้อนจนเกิดเป็นปัญหาในปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้เกิดการยกระดับคุณภาพชีวิตและสังคมที่จะทำให้มูลค่าของทรัพย์สินและความน่าอยู่อาศัยในชุมชนของผู้บริโภคมากขึ้น
นิยาม
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง
ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง
ข้อมูลตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 26 พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และฉบับปรับปรุงแก้ไขตามที่จะมีการแก้ไขเป็นคราว ๆ และกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับอื่น รวมถึงข้อมูลบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน
“พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมายลำดับรองที่อาศัยอำนาจ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในการตราขึ้นและตามที่มีการแก้ไขเป็นครั้งคราว ตลอดถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีผลบังคับใช้และออกโดยหน่วยงานกำกับอื่นในประเทศไทย
“ลูกค้า” หมายถึง
ลูกค้า นิติบุคคล ที่ใช้บริการโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกกับเรา ทั้งที่สัญญามีผลใช้บังคับและสิ้นสุดแล้ว
“คู่ค้า” หมายถึง
บุคคล หรือผู้กระทำการแทนนิติบุคคล หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคล ที่เข้าทำสัญญาบริการกับเรา หรือให้บริการกับเรา ทั้งที่สัญญามีผลใช้บังคับและสิ้นสุดแล้ว
1. ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านที่เราจะเก็บรวบรวม
เมื่อท่านติดต่อ หรือ ใช้บริการจากเรา หรือ เข้าทำสัญญากับเรา โดยทั่วไปเราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านดังต่อไปนี้
- ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
เช่น ชื่อ นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิดวันเกิด อายุ อาชีพ และ ข้อมูลในการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ อีเมล ข้อมูลการติดต่อทาง รายละเอียดข้อมูลอื่น ๆ เท่าที่จำเป็นในการบรรลุวัตถุประสงค์ที่ท่านร้องขอ หรือที่จำเป็นกับการดำเนินการต่าง ๆ ของเรา อาทิ นำเสนอหรือจัดหาผลิตภัณฑ์ ส่งมอบบริการ หรือเข้าทำสัญญา
ในกรณีที่ท่านไม่ให้หรือไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นข้อมูลที่จำเป็นสำหรับเราเพื่อให้เราดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์เหล่านั้น เราอาจจะไม่สามารถส่งมอบบริการดังกล่าวให้แก่ท่านได้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
สำหรับในบางกรณี เราอาจจะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น ประวัติสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม ภาพจำลองใบหน้าของท่านไม่ว่าจะเป็นการถ่ายในลักษณะของภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหว โดยเราจะขอความยินยอมจากท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวดังกล่าว เว้นแต่กฎหมายอนุญาตให้เราประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยไม่ต้องอาศัยความยินยอม
ในกรณีที่เราต้องขอความยินยอมจากท่านและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวนั้นจำเป็นสำหรับการเข้าทำสัญญาระหว่างเรากับท่าน หากท่านไม่ให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่จำเป็นแก่เรา เราอาจปฏิเสธ หรือ อาจไม่สามารถพิจารณาเข้าทำสัญญา หรือ ให้บริการใด ๆ แก่ท่านได้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
2. เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านอย่างไร
โดยทั่วไป เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามช่องทาง และวิธีการดังที่ระบุข้างท้ายนี้
เมื่อท่านเข้าใช้เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และอาจจะรวมถึงแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของเราหรือผู้ให้บริการภายนอกอื่น เราอาจจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลในทางเทคนิค ซึ่งในการเก็บรวบรวมนั้น หมายรวมถึง กิจกรรมส่วนบุคคล/ลักษณะการใช้งานที่ท่านชอบ เช่น ชื่อเรียกตัวตนเฉพาะของลูกค้าที่ใช้บนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ ที่อยู่ไอพี ประเภทและเวอร์ชันของเบราเซอร์ การตั้งค่าเขตเวลา ประเภทของปลั๊กอินในเบราเซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม ข้อมูลผู้ใช้ ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ ซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ ข้อมูลเครือข่ายไร้สายและข้อมูลเครือข่ายทั่วไป และ ตามรายละเอียดที่ระบุในนโยบายคุกกี้ ซึ่งเราขอให้ท่านอ่านและศึกษาทำความเข้าใจก่อนเข้าเยี่ยมชม หรือใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของเรา
3. เมื่อท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกแก่เรา (ข้อมูลแบ่งปัน)
ในกรณีที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับบุคคลอื่น (หรือหลายบุคคล) หรือ ให้ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกแก่เรา (ซึ่งบุคคลภายนอกดังกล่าว รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงผู้สมัครฝ่ายขายที่ท่านสรรหามาเพื่อทำงานให้หรือทำสัญญาฝ่ายขายกับเรา หรือ บุคคลอ้างอิง หรือ สมาชิกประกันกลุ่มภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยหลักของท่าน หรือ บุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการขอเอาประกันภัยของท่าน เช่น บุคคลในครอบครัวของท่าน) ท่านรับรองและรับประกัน ดังนี้
- ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้อง
- ท่านได้แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ให้บุคคลเหล่านั้นทราบอย่างครบถ้วนแล้ว
- ในกรณีที่การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลต้องอาศัยความยินยอม ท่านตกลงว่าท่านได้ดำเนินการใด ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความยินยอมโดยชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ เพื่อให้เราสามารถประมวลผลได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และสามารถแสดง/นำส่งให้เราได้เมื่อเราร้องขอ
ในกรณีของการแบ่งปันข้อมูลของผู้รับประโยชน์ ให้เป็นไปตามที่กำหนดในแบบคำขอประกัน หรือตามแนวทางที่หน่วยงานกำกับกำหนดตราบเท่าที่กฎหมายอนุญาต ท่านตกลงเพิ่มเติมที่จะดำเนินการให้เราได้รับการชดใช้อย่างเต็มที่ ต่อความเสียหาย ความสูญเสีย การลงโทษ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ซึ่งรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเกี่ยวเนื่องกับการดำเนินคดี ไม่ว่าในประการใด ๆ ซึ่งรวมถึงค่าปรับ เบี้ยปรับ ดอกเบี้ย เงินเพิ่ม หรือเงินอื่น ๆ ที่เรียกเก็บ เรียกปรับ หรือเก็บโดยหน่วยงานกำกับดูแลหรือหน่วยงานที่มีอำนาจออกกฎระเบียบ อันเกิดจากหรือเกี่ยวเนื่องกับการกระทำหรือการละเว้นไม่กระทำของท่าน (หรือของเจ้าหน้าที่ พนักงาน ผู้ให้คำปรึกษา ตัวแทน หรือผู้แทนของท่าน) ไม่ว่าจงใจหรือความประมาทเลินเล่อของท่านในการปฏิบัติหน้าที่เหล่านั้น หรือที่ส่งผลให้เราถูกกล่าวหาหรือลงโทษฐานฝ่าฝืนกฎหมายที่ใช้บังคับ
4. วัตถุประสงค์และฐานกฎหมายที่เราใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย (“ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคล
โดยทั่วไป วัตถุประสงค์ที่เราเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย (“ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน มีดังนี้
1) การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลและส่งเสริมธุรกิจการให้บริการวางโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติก เพื่อจัดการปัญหาโครงข่ายสื่อสารแบบเก่าในปัจจุบันให้ดีขึ้น เพื่อรองรับเทคโนโลยีและสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูง ทั้งในปัจจุบันและอนาคตให้มีความทันสมัย
2) การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์หลักอื่น ดังนี้
2.1) เพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อปฏิบัติตามคำขอขอท่านก่อนเข้าทำสัญญา
2.2) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ของเราตามที่กฎหมายกำหนด
2.3) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น
2.4) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของเรา หรือปฏิบัติหน้าที่ใน การใช้อำนาจรัฐที่มอบให้เรา
2.5) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือ สุขภาพของบุคคล
2.6) เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษา วิจัยหรือ สถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมในการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน หรือ
2.7) เป็นความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ โดยได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
2.8) เป็นความจำเป็นเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือ การยกขึ้นต่อสู้เรียกร้องตามกฎหมาย
2.9) ตามความยินยอมที่ท่านให้กับเรา ในกรณีที่ไม่สามารถที่จะอาศัยข้อยกเว้นหรืออ้างอิงฐานทางกฎหมายตามกรณีที่ระบุในข้อข้างต้น
เว้นแต่กฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับ รวมถึง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะอนุญาตให้กระทำเป็นอย่างนั้น เราจะแจ้งและขอความยินยอมจากท่าน ในกรณีที่เราประสงค์จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือไปจากที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ หรือนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับนโยบายฉบับนี้ เราจะดำเนินการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ใหม่ดังกล่าว และ/หรือ ขอความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายกำหนด
ในกรณีที่เราอาศัยความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านย่อมไม่กระทบถึงกิจกรรมที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนการถอนความยินยอม
5. การโอนย้ายข้อมูลและการโอนข้อมูลไปต่างประเทศ
เราอาจถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่จัดเก็บไว้ หรือประมวลผล หรือ ส่งให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานใด ๆ ตามรายละเอียดข้างต้น ซึ่งอาจมีที่ตั้งหรือให้บริการอยู่ในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทย
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกโอนไปยังสถานที่อื่น ๆ ตามเงื่อนไขเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด และ ไม่ว่าในกรณีใด เราจะให้ความคุ้มครองแก่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด
6. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ นานเท่าที่จำเป็นต้องเก็บเพื่อการดำเนินการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุข้างต้น ทั้งนี้เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่ท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์ หรือ การติดต่อครั้งสุดท้ายกับเรา เว้นแต่เรามีสิทธิ หรือหน้าที่ตามกฎหมายที่จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานกว่าที่กำหนดข้างต้น
ทั้งนี้ระหว่างที่เราเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เราจะจัดให้มีมาตรการในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด และเราจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสม เพื่อทำการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่าน ภายในระยะเวลา 2 ปีนับแต่สิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุข้างต้น เว้นแต่กฎหมายกำหนดแตกต่างออกไป
7. สิทธิของท่านในข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่าน
ท่านมีสิทธิดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายอนุญาต โดยเราจะดำเนินการพิจารณาคำร้องของท่าน เมื่อท่านได้ยื่นคำร้องตามช่องทางการขอใช้สิทธิที่ระบุในข้อ 9 ของนโยบายฉบับนี้
เราอาจขอสงวนสิทธิในการดำเนินการยืนยันตัวตนของท่าน และ จะไม่ปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน ตามความเหมาะสมและเท่าที่กฎหมายที่ใช้บังคับจะอนุญาต
ท่านสามารถร้องขอใช้สิทธิของท่านตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นับแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดเวลาการบังคับใช้แตกต่างออกไป ซึ่งในกรณีนั้น ท่านจะสามารถใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ตั้งแต่วันที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับทั้งฉบับ
1) สิทธิขอเข้าถึง
2) สิทธิขอแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง
3) สิทธิขอให้ลบหรือทำลาย
4) สิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูล
5) สิทธิขอรับข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและโอนย้ายข้อมูล
6) สิทธิขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูล
7) สิทธิขอเพิกถอนความยินยอม
8) สิทธิร้องเรียน
8. ช่องทางการขอใช้สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
นับแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 หรือ วันที่พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับทั้งฉบับ ท่านสามารถขอใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยแจ้งความประสงค์ได้ที่: https://www.scgs.co/
9. ช่องทางการติดต่อเราและเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเราเพื่อสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
ติดต่อสอบถามทั่วไป
อีเมล: smarteyes@scgs.co
โทร: 062-2159487
จดหมายส่งถึง: บริษัท สมาร์ทซิตี้โกลบอลโซลูชั่น จำกัด เลขที่ 51/148 ซอยรามคำแหง 96 ถนนรามคำแหง แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร 10240
10. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้
เราขอสงวนสิทธิในการแก้ไข เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง หรือปรับเปลี่ยนนโยบายฉบับนี้ เท่าที่กฎหมายอนุญาต หากเป็นการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญของนโยบายฉบับนี้ เราจะแจ้งการแก้ไข การเปลี่ยนแปลง การปรับปรุง หรือการปรับเปลี่ยนนโยบายให้ท่านทราบ และ/หรือ จะขอความยินยอมจากท่าน ตามที่กฎหมายกำหนด
11. วันที่นโยบายมีผลบังคับใช้
วันที่มีผลบังคับใช้: 1 มิถุนายน 2565